คนกับควาย ของ สมคิด สิงสง

สมคิด สิงสง ได้แต่งเพลง คนกับควาย (อันเป็นบทเพลงประวัติศาสตร์และมีความสำคัญในการต่อสู้ทางความคิดของคนหนุ่มสาวในช่วงนั้น) ร่วมกับ สุรชัย จันทิมาทร และ วิสา คัญทัพในครั้งที่เป็นนักศึกษาหนุ่มหัวก้าวหน้าที่คลุกคลีอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนักดนตรีและกลุ่มกิจกรรมทางการเมือง หงา คาราวาน หรือ สุรชัย จันทิมาทร นายวงคาราวานได้กล่าวถึง สมคิด สงสง เอาไว้ว่า

"พบกับ สมคิด สิงสง ระยะแรกจำได้แต่เพียงว่า ปะทะคารมกันเล็กน้อย เกี่ยวกับโครงการอันสวยหรูของเขาในหน้ากระดาษ ผมรู้สึกแต่เพียงว่าทำได้เลยดีกว่า อย่ามัวแต่ร่างโครงการหรือรอการช่วยเหลืออยู่เลย เพราะโครงการแต่ละอย่างของเขา ต้องใช้เงินค่อนข้างมากต่องมีบุคคลในองค์การรัฐบาลหรือองค์การต่างประเทศสนับสนุน มันจึงจะทำได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ ตอนนั้นเขามีโครงการหมู่บ้านซับแดง อันเป็นบ้านเกิดของเขา เมื่อได้รับทราบก็เห็นดีด้วย แต่ก็แค้นอีตรงทีมันใหญ่โตเกินสองขาสองแขนมนุษย์กระจอกอย่างเราๆ นั้นเป็นการพบกันครั้งแรก ค่อนข้องจะบาดหมางขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่ก็ตามประสาเพื่อนฝูง ที่ชอบขีดๆเขียนๆด้วยกัน ไม่ได้ถือเป็นอารมณ์.."

"สมคิด สงสง คือคนหนุ่มไฟแรง หอบเป้ พิมพ์ดีด ไวโอลินเก่า และปึกกระดาษ ผมขนานนามเขาว่าเจ้าแห่งโครงการ..."

ก่อนจะเป็นเพลง คนกับควาย

สุรชัย จันทิมาธร (หงา คาราวาน) ได้เคยกล่าวถึงช่วงหนึ่งของชีวิตที่เคยร่วมสัญจรไปด้วยกันกับ สมคิด สิงสง ว่า

"จำได้ว่ารักกันมาก ติดสอยห้อยตามกันไปหลายๆวัน แล้วแต่ใครจะคิดได้ว่านอนกันที่ไหนดี ในยุคประชาธิปไตยที่กำลังแตกหน่อ...และในยุคที่สงครามเวียดนามกำลังดุเดือด จี ไอ เต็มบ้านเต็มเมือง"

ในขณะนั้น "สมคิด สิงสง" ออกจากมหาวิทยาลัยแล้วเพนจรไปทั่วเมืองไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์

"หงา" ได้กีตาร์เก่ามาจาก "สุมิตร เหมสกุล" เพื่อนนักข่าว บางกอกโพส

"กีตาร์ตัวนี้ผมรักมันมาก ผมยืมเพื่อนมา ยืมแล้วไม่คืน เพื่อนมันด่าฉิบหาย"

"สมคิด สิงสง" มีไวโอลินเก่าๆอยู่ตัวหนึ่ง มาเล่นด้วยกัน เพลงที่ชอบเล่นอยู่บ่อยๆก็คือเพลง MASTER OF WAR ของ บ็อบ ดีแลน ซึ่งทุกครั้งที่เล่นเพลงนี้ สมคิด จะสีไวโอลินเป็นเสียงเมโลดี้ตามไปด้วย เล่นด้วยกันไปมาต่อเป็นเพลง "คนกับควาย" ขึ้นมาเป็นเบื้องแรก และเมื่อ "หงา" ไปพบบทกวี "เปิบข้าว" ของจิตร ภูมิศักดิ์ เข้าจึงได้ฮัมเป็นเสียงเพลงออกมา